จูเซปเป้ รอสซี อดีตกองหน้าอนาคตไกล แต่ไปไม่สุดเพราะอาการเจ็บเรื้อรัง

Photo Credit : Flickr

เชื่อว่าแฟนบอลหลายคนคงยังจำชื่อของจูเซปเป้ รอสซี อดีตศูนย์หน้าอนาคตไกลของอิตาลี และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคนนี้ได้นะครับ

รอสซีโดดเด่นและมีแววในเกมลูกหนังมาตั้งแต่สมัยที่เป็นเยาวชนอยู่ในสหรัฐอเมริกา ตามที่ครอบครัวของเขา ซึ่งเป็นชาวอิตาเลียนแท้ๆอพยพเข้ามาทำงานบนดินแดนมะกัน ทำให้เขาถือพาสสปอร์ตสองสัญชาติ แต่สุดท้ายรอสซีเลือกที่จะเล่นให้อัซซูรี ในฐานะแผ่นดินเกิดของพ่อแม่แบบไม่ลังเล

เขาเริ่มเป็นที่น่าจับตามองหลังถูกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดึงมาเสริมทัพ โดยเป็นการดึงมาจากอคาเดมีปาร์มาเมื่อปี 2004 และเริ่มเฉิดฉายแววขึ้นมาจากสถิติคร่าวๆคือ 19 เกมกับ 13 ประตูในทีมสำรองปีศาจแดงในซีซั่นแรก

อย่างไรก็ดี แม้จะมีโอกาสลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ แต่รอสซีก็เริ่มมาเผชิญหน้ากับอาการบาดเจ็บ ที่ภายหลังเรื้อรังถึงขั้นทับเส้นทางลูกหนังของเจ้าตัวเกือบค่อนอาชีพ!

เกิดอะไรขึ้นกับตัวรุกวัย 31 ปี ที่เคยมีดีกรีติดทีมชาติอิตาลี 30 นัด, อดีตแข้งโกลเด้นบู๊ทของฟุตบอลชายโอลิมปิกเกมส์ที่ปักกิ่ง 2008 รวมถึงดาวซัลโวบียาเรอัลล์ ที่จำนวนกว่า 80 ประตู ผมขอแยกอาการเจ็บหนักของรอสซี จากการรวบรวมของ BBC ที่ตัวเขาได้รับนับตั้งแต่เล่นอาชีพอย่างเป็นทางการกับแมนฯ ยูไนเต็ด มาจนถึงก่อนเริ่มฤดูกาล 2018-19 นี้

- เดือนตุลาคม 2011 ได้รับบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าฉีกบริเวณหัวเข่าขวา สมัยอยู่กับบียาเรอัล

- อาการเดิมหลอกหลอนรอสซีอีกครั้งในเดือนเมษายน 2012 กับต้นสังกัดใหม่อย่างฟิออเรนติน่า และไม่ได้ลงเล่นเลยจนถึงเดือนพฤษภาคม 2013

- แม้จะหายเจ็บกลับมา และลงสนามได้อยู่พักหนึ่ง รอสซีเจอปัญหาเจ็บแถวเส้นเอ็นเข่าขวาในเดือนมกราคม 2014 ทำให้พักไปอีก 4 เดือน

- รอสซีโชคร้ายแบบติดๆกันในปี 2014 เพราะเดือนสิงหาคม เขาได้รับบาดเจ็บที่เข่าขวาอีกหน และหายจากผืนสนามไปอีก 1 ปีเต็มๆ

- จากนั้นในเดือนเมษายน 2017 ระหว่างถูกยืมไปเล่นให้เซลต้า บีโก้ เขาสลับอาการเจ็บเอ็นไขว้หน้าฉีกมาที่เข่าด้านซ้ายบ้าง

เมื่อนับๆรวมแล้ว ช่วงเวลาที่หายจากสนามแข่งของแข้งวัยเลขสามกินเวลาไม่น้อยไปกว่าครึ่งหนึ่งของอาชีพนักฟุตบอล 14 ปี

นักเตะหลายคนเจออาการเจ็บเรื้อรังคิดเลิกเล่นไปแล้วไม่น้อย อาทิ เซบาสเตียน ไดส์เลอร์ อดีตห้องเครื่องทีมชาติเยอรมัน ที่เลิกเล่นในวัยไม่ถึง 30 หรือดีน แอชตัน อดีตกองหน้าเวสต์แฮม ฯลฯ แต่สำหรับรอสซี เขายังคงต่อสู้กับอุปสรรคดังกล่าว โดยมีคำว่า "ใจ" รักที่จะเล่น ดัง ส่วนหนึ่งของประโยคสัมภาษณ์กับ BBC ว่า 'I love the game too much to quit'

ถึงตอนนี้รอสซีกลายเป็นผู้เล่นไร้สังกัดภายหลังที่หมดสัญญากับสโมสรเจนัว และอยู่ในช่วงเวลาของการเรียกความฟิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อความหวังที่จะกลับมาลงสัมผัสสนามฟุตบอลในฐานะนักเตะอีกครั้ง

เป็นกำลังใจให้นะครับ 'จูเซปเป้ รอสซี'